เรียนภาษาช่วงเวลาไหนเหมาะสมที่สุด
- Posted by admin
- Categories การเรียนภาษา
- Date September 3, 2021
- Comments 0 comment
มีงานวิจัยที่ได้กล่าวถึงประโยชน์มากมายของความสามารถในการใช้สองภาษา เพราะด้วยความสามารถนี้จะช่วยให้เราเข้าใจในโครงสร้างทางภาษาต่างๆ และเข้าถึงมุมมองของวัฒนธรรมอื่นๆได้เป็นอย่างดี โดยความสามารถในการใช้สองภาษาอย่างคล่องแคล่วจะเป็นการช่วยเปิดโอกาสในการหางานได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น อีกทั้งงานวิจัยยังกล่าวถึงอีกว่าความสามารถในด้านนี้จะช่วยชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วยค่ะ
ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศ ไม่ได้มีการเริ่ม เรียนภาษาเพิ่มเติมจนกระทั้งระดับชั้นมัธยมหรือบ้างคนไม่ได้เรียนเสริมจนกระทั้งระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเริ่มเรียนที่ล่าช้าทำให้การเรียนรู้ภาษาและการใช้ภาษาในการสนทนาไม่สามารถทำได้อย่างคล่องแคล่วเสมือนเจ้าของภาษา เวลาที่เหมาะสมและดีที่สุดในการ เรียนภาษา เพิ่มเติมเพื่อได้ผลรับอย่างเต็มที่นั้นคือ เมื่อตอนเรายังเป็นเด็ก เพื่อลดอุปสรรคต่อการเรียนภาษาค่ะ
นี่หมายความว่าเด็กโตแล้วระดับมัธยมหรือมหาลัยไม่สามารถเรียนภาษาได้เหรอ?
คำตอบคือ ไม่ค่ะ แต่หากเราตัดสินใจแนะนำภาษาต่างชาติให้กับเด็กๆได้ไวขึ้นเท่าไหร่ เด็กๆยิ่งจะได้รับผลไวและมีผลดีกับการกล้าแสดงออกในการใช้ภาษาของเด็กๆมากขึ้นเท่านั้นค่ะ
1) สำเนียงการออกเสียง
หลายๆงานวิจัยได้รับการยอมรับกันว่า หากเด็กๆได้ เรียนภาษา ต่างชาติตั้งแต่ยังเล็ก จะมีโอกาสที่จะทำให้สำเนียงการออกเสียงภาษานั้นทำได้เสมือนเจ้าของภาษาเลย และจะไม่ติดสำเนียงของภาษาหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ทีมงานวิจัยของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้ทำการค้นคว้าข้อมูลที่มุ่งเน้นไปทางด้านการรับรู้และความเข้าใจภาษาที่สื่อสารในวัยเด็กด้วยการตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเราเรียนรู้ภาษาตอนอายุมากขึ้น จะส่งผลให้สำเนียงการออกเสียงเหมือนเจ้าของภาษานั้น ทำได้ยากขึ้น จึงเป็นที่สรุปว่าการให้เด็กๆเริ่มต้นเรียนรู้ภาษาตั้งแต่ยังอ่อนวัยเสมือนการมอบของขวัญที่มีค่าที่สุดด้วยสำเนียงต่างชาติที่ถูกต้องให้น้องๆค่ะ
2) 10,000 ชั่วโมง
ในหนังสือ Outliers เขียนโดย Malcolm Gladwell กล่าวไว้ว่า การเรียนรู้เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุดต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10,000 ชม. (จากการงานวิจัยของ K. Anders Ericsson) โดยโอกาสการเรียนรู้สำหรับผู้ใหญ่นั้นค่อนข้างยากที่จะหาเวลาว่าง 10,000 ชม. เพื่อทุ่มเทในการเรียนภาษาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามหากเราเริ่มต้นการเรียนภาษาในวัยเด็กอย่างต่อเนื่อง 10,000 ชม. ในหลายๆปีรวมกัน ก็ไม่ได้ยากเกินไปเลย!! ดังนั้นการเริ่มให้เด็กๆเรียนรู้ภาษาต่างชาติตั้งแต่ยังเล็ก จะช่วยให้น้องๆได้สะสมประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อความสำเร็จในการเรียนภาษาได้มากขึ้น นอกจากนี้มีหลายงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าความสามารถในการใช้สองภาษาตลอดชีวิตนั้น เป็นกุญแจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จมากมายเพราะประโยชน์ของการใช้สองภาษาอย่างคล่องแคล่วทำให้บุคคลนั้นเป็นบุคลากรที่มีประสิทธิภาพอย่างล้นเหลือค่ะ
เด็กๆโดยธรรมชาติแล้วจะสนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและไม่ได้เคร่งเครียดกับการเอาคะแนนเป็นหลัก พวกเขาแค่ต้องการมีช่วงเวลาที่สนุกสนาน โดยไม่ได้หมกมุ่นว่ากิจกรรมนี้เกี่ยวกับการเรียนภาษาแต่จะรู้สึกเพลิดเพลินกับการเรียน ถ้าผู้สอนมีทักษะการสอนเนื้อหาให้เข้ากับวัยที่เหมาะสม การเรียนรู้ผ่านความเพลิดเพลินจะทำให้ทักษะความสามารถของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าเราใช้วิธีเดียวกันนี้ กับเด็กมัธยมที่พึ่งเริ่มเรียนภาษามาล้อมวงร้องเพลงและปรบมือผลที่ออกมาจะได้ไม่เท่ากับเด็กๆ โดยการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม เช่น การร้องเพลงและปรบมือกัน ที่สร้างความสุขและความสนุกสนานนั้น คือสิ่งที่เป็นผลดีกับเด็กๆ เพราะจะทำให้การพัฒนาภาษาของเด็กๆเป็นไปอย่างรวดเร็วค่ะ
สิ่งที่มหัศจรรย์ของเด็กคือการได้ทำสิ่งต่างๆโดยไม่ต้องกังวลว่าสิ่งๆนั้นจะถูกหรือผิด และวิธีนี้สามารถใช้กับการเรียนภาษาได้เช่นกัน เพราะเด็กๆจะไม่กังวลหรือกลัวความผิดพลาด ซึ่งพวกเขาจะมีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ เมื่อเห็นการโต้ตอบของเพื่อนๆและคุณครูที่กำลังสอนให้พวกเขาเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ถือเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นและสร้างประสบการณ์ที่มีประสิทธิภาพของเด็กๆค่ะ
5) เครือข่ายการสนับสนุน
เด็กๆมีโอกาสเปิดรับข้อมูลจากสิ่งที่มีอิทธิพลต่างๆมากมายโดยเฉพาะ พ่อแม่ คุณครู เพื่อนๆ ครอบครัว หากคุณครูและผู้ปกครองมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้ภาษาของเด็กๆ จะเป็นอิทธิพลในการพลักดันและสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีให้กับเด็กๆในการโต้ตอบทุกครั้งของการเรียน ซึ่งการเรียนภาษานั้นสามารถฝึกฝนได้ทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน โดยคุณครูสามารถแนะนำคำศัพท์และเพลงต่างๆในชั้นเรียน ขณะที่ผู้ปกครองสามารถเสริมสร้างเนื้อหาเพื่อทบทวนบทเรียนให้เด็กๆผ่านกิจกรรมต่างๆได้ เช่น หนังสือ เกมส์ วิดีโอ หรือสื่อการเรียนอื่นๆ ที่สร้างความน่าสนใจให้กับเด็กๆในการเรียนภาษา
6) การไม่มีข้อยกเว้น
การแนะนำภาษาให้กับเด็กๆในช่วงวัยแรกเริ่มของการเรียนรู้จะเป็นส่วนช่วยให้เด็กๆยอมรับว่าความสามารถในการใช้สองภาษาและการพูดได้หลายภาษาเป็นเรื่องปกติในโลก โดยการสื่อสารได้มากกว่าหนึ่งภาษานั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แต่เป็นส่วนประกอบหนึ่งของสังคมโลก หากเด็กๆได้สัมผัสกับภาษาและวัฒนธรรมต่างๆตั้งแต่ในวัยเด็ก จากการเรียนรู้ด้วยหนังสือ วิดีโอ หรือสิ่งของที่เป็นสื่อการเรียนรู้ต่างๆ จะเป็นส่วนช่วยสร้างโอกาสในอนาคตให้พวกเขามีความคุ้นชินกับโลกที่ภาษาและวัฒนธรรมเชื่อมโยงกันค่ะ
งานวิจัยมากมายในปัจจุบันจะช่วยให้ผู้ปกครองและคุณครูรู้สึกตื่นเต้นในการสร้างแรงบันดาลใจเพื่อให้เด็กๆและนักเรียนได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมต่างๆตั้งแต่เยาว์วัย ด้วยการเปิดรับภาษาให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แม้แต่การเรียนรู้เล็กๆก็เป็นส่วนสำคัญที่เด็กๆได้รับประโยชน์อย่างมากที่สุดเช่นเดียวกัน
ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่การเรียนภาษาก็เป็นสิ่งสำคัญ และไม่สายเกินไปกว่าการศึกษาเพิ่มเติม เพราะการเรียนไม่มีที่สิ้นสุด ผู้ปกครองหรือคุณครูสามารถเริ่มการเรียนรู้ให้กับเด็กๆเพื่อสะสมเวลา 10,000 ชม. ได้แล้ววันนี้ สนใจฝึกฝนภาษาอังกฤษกับเรา คลิ๊ก LINK ข้างใต้นี้ได้เลยนะคะ
You may also like
ฝึกทักษะให้เก่งขึ้น ด้วยการทำ แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ
แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ เพิ่มทักษะได้อย่างไร!! การฝึกฝนด้วยการทำ แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ คือหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างพื้นฐานทางภาษาที่มั่นคงและพัฒนาทักษะทางด้านภาษาของเราให้ดีขึ้น เพราะการทำแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ เป็นการช่วยฝึกฝนและทบทวนบทเรียน เพื่อเพิ่มความจำและการพัฒนาทักษะของเราทางด้านต่างๆ ทั้งทางด้าน การสะกดคำ การอ่าน และการเขียน โดยทักษะเหล่านี้ จะทำให้เรามีความเข้าใจในภาษาที่เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ดังนี้ค่ะ!! 1) ทักษะการสะกดคำ (Spelling Skills) คือ ส่วนสำคัญของหลักการเขียนเพื่อการเรียบเรียงลำดับตัวอักษรที่ถูกต้อง Spelling skills เริ่มต้นจากการเรียน Phonics และตามมาด้วยการ Blends (คือการผสมเสียงของ Phonics) การฝึกฝนในการสระกดคำและการออกเสียงตามหลักการที่ถูกต้อง จะช่วยให้นำภาษามาใช้ในการสื่อสารในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องแคล่ว 2) ทักษะการอ่าน (Reading Skills) คือ เกิดการรับรู้จากประโยค และคำศัพท์ต่างๆ ที่ทำให้เกิดการสังเกตและทำความเข้าใจในความหมายของภาษา ซึ่งเป็นการพัฒนาสมองและสร้างความรู้ให้เพิ่มมากขึ้น …
5 ข้อดีของการเรียนภาษาอังกฤษ
อย่างที่เรารู้กันดีว่า ภาษาอังกฤษ คือ ภาษาสากล ที่ใช้สื่อสารทั่วโลกและอยู่ใกล้ตัวเรามาก ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน ภาษาอังกฤษก็จะมีให้เห็นในทุกๆที จึงทำให้การเรียนภาษาอังกฤษมีความสำคัญเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งหากเรามีความเข้าใจในภาษาและสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ภาษาอังกฤษจะเป็นสิ่งที่ช่วยเปิดโอกาสและโลกของเราให้กว้างขึ้น ทั้งการสมัครงาน การเรียน การติดต่อสื่อสาร และการท่องเที่ยว ซึ่งแน่นอนว่าโลกที่กว้างขึ้นนั้น ย่อมนำมาซึ่งโอกาสที่ดีมากขึ้นเช่นเดียวกัน!! ในบทความนี้เราจะมาบอกกันว่า “ข้อดีของ การเรียนภาษาอังกฤษ” นั่นดีอย่างไร 1) ภาษาอังกฤษจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ การที่เรามีความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว จะช่วยให้เรามีความกล้าในการสื่อสารและกล้าแสดงออก รวมถึงรับรู้ข้อมูลได้มากขึ้น เพราะเมื่อเราเข้าใจในความหมายของภาษาอังกฤษแล้ว เราจะไม่มีความกังวลหรือความกลัว ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นค่ะ 2) พัฒนาสมอง เพราะการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ทำให้สมองของเรามีการจดจำและแปลความหมาย ด้วยการฝึกฝนเรียนรู้ จากการพูด …
อยากเก่งภาษาอังกฤษ ต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
รู้หรือไม่!! ความสม่ำเสมอคือพื้นฐานของการใช้ภาษาอังกฤษเลยนะ หลายๆคนคงมีปัญหา เรียนภาษาอังกฤษมานานทำไมไม่เก่งสักที อยากเก่งภาษาอังกฤษ อยากสื่อสารให้คล่อง สำเนียงเป๊ะ เหมือนเจ้าของภาษา ต้องทำยังไง “รู้ไหมว่า” ปัญหาเหล่านี้เกิดจาก ความไม่สม่ำเสมอของการใช้ภาษา ซึ่งส่งผลทำให้การพูดของเราไม่มีความเป็นธรรมชาติและเกิดการติดขัดเมื่อต้องสื่อสารกับผู้อื่น เพราะภาษาคือสิ่งที่เราใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อสื่อความหมาย อาจจะด้วยคำพูด การเขียน การอ่าน หรือการรับรู้ด้วยการฟัง หากเราไม่ได้หมั่นฝึกฝนบ่อยๆ เสมือนเป็นภาษาของเราเอง ภาษาก็จะไม่ได้พัฒนาขึ้น อาจจะแย่ลงด้วยซ้ำ ดังนั้นความสม่ำเสมอคือพื้นฐานที่สำคัญต่อการเรียนภาษาของทุกช่วงวัย โดยเฉพาะเด็กๆ หากได้ฝึกฝนบ่อยๆจะช่วยพัฒนาทักษะได้ไวมากขึ้นค่ะ แล้ววันนี้เราจะมาบอก ทริคเล็กๆที่ทำให้ภาษาของเราพัฒนาได้อย่างสม่ำเสมอค่ะ ฝึกพูดให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน การฝึกใช้ภาษาอังกฤษบ่อยๆในชีวิตประจำวัน คือส่วนสำคัญที่ทำให้ภาษาของเรามีการพัฒนาได้มากขึ้น โดยเราสามารถพูดคุยกับเพื่อน หรือคนในครอบครัว ด้วยภาษาอังกฤษได้ …