ฝึกทักษะให้เก่งขึ้น ด้วยการทำ แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ
- Posted by admin
- Categories การเรียนภาษา
- Date September 3, 2021
- Comments 0 comment
แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ เพิ่มทักษะได้อย่างไร!!
การฝึกฝนด้วยการทำ แบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ คือหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างพื้นฐานทางภาษาที่มั่นคงและพัฒนาทักษะทางด้านภาษาของเราให้ดีขึ้น เพราะการทำแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ เป็นการช่วยฝึกฝนและทบทวนบทเรียน เพื่อเพิ่มความจำและการพัฒนาทักษะของเราทางด้านต่างๆ ทั้งทางด้าน การสะกดคำ การอ่าน และการเขียน โดยทักษะเหล่านี้ จะทำให้เรามีความเข้าใจในภาษาที่เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ดังนี้ค่ะ!!
1) ทักษะการสะกดคำ (Spelling Skills) คือ ส่วนสำคัญของหลักการเขียนเพื่อการเรียบเรียงลำดับตัวอักษรที่ถูกต้อง Spelling skills เริ่มต้นจากการเรียน Phonics และตามมาด้วยการ Blends (คือการผสมเสียงของ Phonics) การฝึกฝนในการสระกดคำและการออกเสียงตามหลักการที่ถูกต้อง จะช่วยให้นำภาษามาใช้ในการสื่อสารในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องแคล่ว
2) ทักษะการอ่าน (Reading Skills) คือ เกิดการรับรู้จากประโยค และคำศัพท์ต่างๆ ที่ทำให้เกิดการสังเกตและทำความเข้าใจในความหมายของภาษา ซึ่งเป็นการพัฒนาสมองและสร้างความรู้ให้เพิ่มมากขึ้น
3) ทักษะการเขียน (Writing Skills) คือ การสื่อสารถึงความรู้ ความคิด ความรู้สึก ของเราหรือผู้อื่น โดยมีพื้นฐานความรู้ จากการฟัง การพูด การอ่าน ซึ่งพื้นฐานต่างๆเหล่านี้ จะช่วยพัฒนาภาษาในการเขียน คำศัพท์ ประโยค และเรื่องราว ให้เราเกิดการจดจำ โดยทักษะทางการเขียนมีการฝึกฝนอยู่ 3 แนวทาง
3.1) การเขียนแบบควบคุม (Controlled Writing) เป็นการฝึกเขียนที่เน้นในเรื่องความถูกต้องของรูปแบบ และจำกัดความคิดของการเขียน เช่น การเปลี่ยนรูปทางไวยากรณ์ การเขียนตามศัพท์ เป็นต้น ซึ่งจะฝึกฝนให้เราเกิดการจดจำรูปแบบทางภาษาได้รวดเร็วและถูกต้องแม่นยำ
3.2) การเขียนแบบกึ่งควบคุม (Less – Controlled Writing) จะให้อิสระทางการเขียนมากขึ้น ลดการควบคุมทางแบบฝึกการเขียนน้อยลง เช่น การเติมคำศัพท์ให้ถูกต้อง การเขียนประโยคให้สมบูรณ์ เป็นต้น โดยลักษณะการเขียนแบบกึ่งควบคุมจะพัฒนาไปสู่การเขียนแบบอิสระได้
3.3) การเขียนแบบอิสระ (Free Writing) เป็นลักษณะการเขียนที่ไม่มีการควบคุม ทำให้เกิดอิสระทางความคิด โดยวิธีการนี้จะช่วยพัฒนาทักษะและความสามารถทางการเขียนได้อย่างเต็มที่ ด้วยการนำข้อมูลของการเรียนรู้ที่เรามีมาใช้ในการเขียนให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
ดังนั้นการฝึกภาษาให้เกิดทักษะต่างๆ ต้องมาจากการความเข้าใจและการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ เพราะความสม่ำเสมอจะนำมาซึ่งความจำและความมั่นใจทางภาษาที่แข็งแรงขึ้นค่ะ
เริ่มฝึกทักษะทางภาษากับเราได้!! ที่ link ใต้ล่างนี้เลย
You may also like
5 ข้อดีของการเรียนภาษาอังกฤษ
อย่างที่เรารู้กันดีว่า ภาษาอังกฤษ คือ ภาษาสากล ที่ใช้สื่อสารทั่วโลกและอยู่ใกล้ตัวเรามาก ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน ภาษาอังกฤษก็จะมีให้เห็นในทุกๆที จึงทำให้การเรียนภาษาอังกฤษมีความสำคัญเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งหากเรามีความเข้าใจในภาษาและสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ภาษาอังกฤษจะเป็นสิ่งที่ช่วยเปิดโอกาสและโลกของเราให้กว้างขึ้น ทั้งการสมัครงาน การเรียน การติดต่อสื่อสาร และการท่องเที่ยว ซึ่งแน่นอนว่าโลกที่กว้างขึ้นนั้น ย่อมนำมาซึ่งโอกาสที่ดีมากขึ้นเช่นเดียวกัน!! ในบทความนี้เราจะมาบอกกันว่า “ข้อดีของ การเรียนภาษาอังกฤษ” นั่นดีอย่างไร 1) ภาษาอังกฤษจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ การที่เรามีความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว จะช่วยให้เรามีความกล้าในการสื่อสารและกล้าแสดงออก รวมถึงรับรู้ข้อมูลได้มากขึ้น เพราะเมื่อเราเข้าใจในความหมายของภาษาอังกฤษแล้ว เราจะไม่มีความกังวลหรือความกลัว ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นค่ะ 2) พัฒนาสมอง เพราะการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ทำให้สมองของเรามีการจดจำและแปลความหมาย ด้วยการฝึกฝนเรียนรู้ จากการพูด …
อยากเก่งภาษาอังกฤษ ต้องฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
รู้หรือไม่!! ความสม่ำเสมอคือพื้นฐานของการใช้ภาษาอังกฤษเลยนะ หลายๆคนคงมีปัญหา เรียนภาษาอังกฤษมานานทำไมไม่เก่งสักที อยากเก่งภาษาอังกฤษ อยากสื่อสารให้คล่อง สำเนียงเป๊ะ เหมือนเจ้าของภาษา ต้องทำยังไง “รู้ไหมว่า” ปัญหาเหล่านี้เกิดจาก ความไม่สม่ำเสมอของการใช้ภาษา ซึ่งส่งผลทำให้การพูดของเราไม่มีความเป็นธรรมชาติและเกิดการติดขัดเมื่อต้องสื่อสารกับผู้อื่น เพราะภาษาคือสิ่งที่เราใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อสื่อความหมาย อาจจะด้วยคำพูด การเขียน การอ่าน หรือการรับรู้ด้วยการฟัง หากเราไม่ได้หมั่นฝึกฝนบ่อยๆ เสมือนเป็นภาษาของเราเอง ภาษาก็จะไม่ได้พัฒนาขึ้น อาจจะแย่ลงด้วยซ้ำ ดังนั้นความสม่ำเสมอคือพื้นฐานที่สำคัญต่อการเรียนภาษาของทุกช่วงวัย โดยเฉพาะเด็กๆ หากได้ฝึกฝนบ่อยๆจะช่วยพัฒนาทักษะได้ไวมากขึ้นค่ะ แล้ววันนี้เราจะมาบอก ทริคเล็กๆที่ทำให้ภาษาของเราพัฒนาได้อย่างสม่ำเสมอค่ะ ฝึกพูดให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน การฝึกใช้ภาษาอังกฤษบ่อยๆในชีวิตประจำวัน คือส่วนสำคัญที่ทำให้ภาษาของเรามีการพัฒนาได้มากขึ้น โดยเราสามารถพูดคุยกับเพื่อน หรือคนในครอบครัว ด้วยภาษาอังกฤษได้ …
เรียนภาษาช่วงเวลาไหนเหมาะสมที่สุด
มีงานวิจัยที่ได้กล่าวถึงประโยชน์มากมายของความสามารถในการใช้สองภาษา เพราะด้วยความสามารถนี้จะช่วยให้เราเข้าใจในโครงสร้างทางภาษาต่างๆ และเข้าถึงมุมมองของวัฒนธรรมอื่นๆได้เป็นอย่างดี โดยความสามารถในการใช้สองภาษาอย่างคล่องแคล่วจะเป็นการช่วยเปิดโอกาสในการหางานได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น อีกทั้งงานวิจัยยังกล่าวถึงอีกว่าความสามารถในด้านนี้จะช่วยชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วยค่ะ ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศ ไม่ได้มีการเริ่ม เรียนภาษาเพิ่มเติมจนกระทั้งระดับชั้นมัธยมหรือบ้างคนไม่ได้เรียนเสริมจนกระทั้งระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเริ่มเรียนที่ล่าช้าทำให้การเรียนรู้ภาษาและการใช้ภาษาในการสนทนาไม่สามารถทำได้อย่างคล่องแคล่วเสมือนเจ้าของภาษา เวลาที่เหมาะสมและดีที่สุดในการ เรียนภาษา เพิ่มเติมเพื่อได้ผลรับอย่างเต็มที่นั้นคือ เมื่อตอนเรายังเป็นเด็ก เพื่อลดอุปสรรคต่อการเรียนภาษาค่ะ นี่หมายความว่าเด็กโตแล้วระดับมัธยมหรือมหาลัยไม่สามารถเรียนภาษาได้เหรอ? คำตอบคือ ไม่ค่ะ แต่หากเราตัดสินใจแนะนำภาษาต่างชาติให้กับเด็กๆได้ไวขึ้นเท่าไหร่ เด็กๆยิ่งจะได้รับผลไวและมีผลดีกับการกล้าแสดงออกในการใช้ภาษาของเด็กๆมากขึ้นเท่านั้นค่ะ นี่คือ 6 เหตุผลสำคัญที่ทำไมเด็กๆควรเรียนรู้ภาษาเพิ่มเติมให้เร็วที่สุด 1) สำเนียงการออกเสียง หลายๆงานวิจัยได้รับการยอมรับกันว่า หากเด็กๆได้ เรียนภาษา ต่างชาติตั้งแต่ยังเล็ก จะมีโอกาสที่จะทำให้สำเนียงการออกเสียงภาษานั้นทำได้เสมือนเจ้าของภาษาเลย และจะไม่ติดสำเนียงของภาษาหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ทีมงานวิจัยของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ได้ทำการค้นคว้าข้อมูลที่มุ่งเน้นไปทางด้านการรับรู้และความเข้าใจภาษาที่สื่อสารในวัยเด็กด้วยการตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเราเรียนรู้ภาษาตอนอายุมากขึ้น …